Nuskin Tri Phasic White ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวกระจ่างใส และคงความขาว

ในชุดของ nuskin tri phasic white นี้ 1 ชุดจะประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์อยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 รายการดังนี้
1. Tri-Phasic White Cleanser
2. Tri-Phasic White Toner
3. Tri-Phasic White Essence
4. Tri-Phasic White Day Milk Lotion
5. Tri-Phasic White Night Cream

ประโยชน์

ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ nuskin tri phasic white ออกแบบมาเพื่อรับมือกับทั้ง 3 ขั้นตอนของการเกิดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ คือ

. ลดการกระตุ้นการสร้างเม็ดสี

. ยับยั้งการสังเคราะห์เม็ดสี

. ลดเลือนจุดด่างดำที่ปรากฏ

ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ผลิตภัณฑ์ชุด nuskin tri phasic white

. จุดด่างดำที่ปรากฏลดลง สีผิวมีความสม่ำเสมอมากขึ้น ให้ผิวกระจ่างใส

. ช่วยป้องกันการเกิดจุดด่างดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอมากขึ้น

. ทำให้ผิวหน้ามีความกระจ่างใส เพื่อผิวพรรณที่สวยงาม

ส่วนประกอบสำคัญ

Ø ครีเอทินีน (creatinine) ช่วยยับยั้งขบวนการขนถ่ายเม็ดสีสู่ผิวชั้นบน พร้อมปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เรียบเนียน - แฟร์เท็กซ์ (Fairtrex) สารผลัดเซลล์ที่ไม่มีฤทธิ์เป็นกรด ช่วยลดเลือนจุดด่างดำบนใบหน้า
Ø คาร์โนซีน (Carnosine) สารต้านอนุมูลอิสระทรงประสิทธิภาพปกป้องผิวจากอาการระคายเคือง มอบความสบายแก่ผิวพร้อมป้องกันการกระตุ้นการสร้างเม็ดสีใหม่
- ไบรท์เท็กซ์ (BrightexTM)” ที่สามารถตรงเข้าแทรกแซงขบวนการสังเคราะห์เม็ดสี ทำให้เม็ดสีที่ปรากฏมีสีอ่อนลง
Ø เฮ็กซาเปปไทด์-2 (Hexapeptide-2) ช่วยยับยั้งการทำงานของฮอร์โมน MSH (Melanocyte Stimulating Hormone) ที่ทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างเม็ดสีสาเหตุของผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ

Ø สารกันแดด พร้อมปกป้องผิวจากรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต UVA และ UVB (SPF 15) สาเหตุสำคัญของสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
Ø ไดอะเซทธิล โบลด์ดีน (Diacetyl Boldine) ยับยั้งการกระตุ้นการสร้างเม็ดสีที่มีสาเหตุมาจาก

ความเครียด

วิธีใช้

ตอนเช้า

1. Tri-Phasic White Cleanser

2. Tri-Phasic White Toner

3. Tri-Phasic White Essence

4. Tri-Phasic White Day Milk Lotion

ตอนเย็น

1. Tri-Phasic White Cleanser

2. Tri-Phasic White Toner

3. Tri-Phasic White Essence

4. Tri-Phasic White Night Cream

ผลการศึกษาทางคลินิก

จากผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ nuskin tri phasic white system ติดต่อกันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ผู้เข้าร่วมทดลองทุกคนต่างลงความเห็นว่า

- ผิวกระจ่างใสขึ้น 39 %

- สีผิวสม่ำเสมอขึ้น 41 %

- สภาพผิวโดยรวมดูดีขึ้น 28 %

ซึ่งหากมีการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง พัฒนาการของสภาพผิวก็จะสูงขึ้น

เดลี่ เอสเซนเชี่ยล ชุดผลิตภัณฑ์ป้องกันริ้วรอยขั้นต้น สูตรน้ำ

เดลี่ เอสเซนเชี่ยล  ชุดผลิตภัณฑ์ป้องกันริ้วรอยขั้นต้น สูตรน้ำ

   มีให้เลือก 2 ชุด ตามสภาพผิวคือ ผิวแห้ง-ผิวธรรมดา 
    และ ชุดผิวผสม – ผิวมัน

 Øโฟมวิตามินซีรูปแบบเสถียร(ปราศจากน้ำ)

รางวัลผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ดีที่สุดจาก เฮลธ์ แมกกาซีน ปี 2000 ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส

Øพีเอส บาลานซ์  โทนเนอร์ สูตรลิขสิทธิ์ปราศจากแอลกอฮอล์ สารบำรุงธรรมชาติล้วน

Øเอ็นเอพีซีเอ มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ หรือ เอนแฮนเซอร์ ช่วยดึงความชุ่มชื่นเข้าสุ่ผิวด้วยส่วนผสมสูตรน้ำ

Øซันไรท์ 35 พีเอ+++ ปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ บี และอินฟราเรด พร้อมบำรุงผิว

Lifepak ไลฟ์แพ็ก วิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระ

Feature : วิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระ

Advantage :

. สารอาหารที่สมบูรณ์

  - วิตามิน และเกลือแร่ที่ครบถ้วน/ปริมาณสมดุลย์/การดูดซึมดี

  - สารต้านอนุมูลอิสระกว่า 30 ชนิด

. การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์

  มีการศึกษาทางคลีนิคโดยใช้ผลิตภัณฑ์

. การยอมรับระดับสากล

  - อยู่ในตำรายา PDR (Physicians’ Desk Reference)

  - สนับสนุนนักกีฬาโอลิมปิค/การประชุมระดับโลกFASEB

  - ผ่านมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัย 6S

. คงตัวสูง

   ซองฟิล์มป้องกันอากาศและความชื้น(รางวัลเหรียญทองระดับสากล)

Benefits :

. ซ่อมแซมและปรับสมดุลของทุกระบบในร่างกายให้ทำงานปกติ

. บำรุงสุขภาพทุกด้าน อาทิเช่น หัวใจและหลอดเลือด สมอง ตับ

 ไต ปอด ภูมิคุ้มกัน ดวงตา ผม ผิว เล็บ กระดูก

. สมดุลฮอร์โมน ระบบสืบพันธ์ ระบบขับถ่าย ระบบเลือด และระบบ

   อื่นๆของร่างกาย  ช่วยปกป้องดีเอ็นเอ และทุกเซลล์ของร่างกาย

. ต่อต้านอนุมูลอิสระ ต่อต้านการกลายพันธ์ของเซลล์

. ต่อต้านความเสื่อมชราในทุกด้านของร่างกาย

การรับประทานเพื่อประโยชน์สูงสุด

  รับประทานครั้งละ 1 ซอง(3 เม็ด) วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้า-เย็น

Product Demo / Testing

Biophotonic scanner in Thailand Media

เครื่องไบโอโพโตนิค สแกนเนอร์ คืออะไร

นวัตกรรมใหม่เพื่อให้การวัดระดับแคโรทีนอยด์(สารต้านอนุมูลอิสระเป็นเรื่องง่าย เราสามารถวัดระดับแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนังโดยใช้เวลาประมาณ 3-5นาที จะทราบค่าแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนังและสามารถทราบว่าร่างกายมีระดับสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอหรือไม่

เครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์วัดอะไร

วัดระดับสารแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนัง ซึ่งสารแคโรทีนอยด์มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระเป็นตัวชี้วัดที่ดีเพื่อแสดงว่าระดับสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายมีเพียงพอหรือไม่

เครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์ เกิดขึ้นได้อย่างไร

ดร.เวอร์เนอร์ เกลเลอร์แมน นักฟิสิกส์แห่งมหาวิทยาลัยยูท่าห์ และทีมงานจากมหาวิทยาลัยทางการแพทย์เป็นผู้พัฒนาเครื่องสแกนเนอร์ขึ้น โดย ดร. เกลเลอร์แมนและทีมงานได้ทำการศึกษาโดยใช้หลักการทางฟิสิกส์ของเซอร์ ซีวี รามาน ซึ่งได้รับรางวัลโนเบิล จากการค้นพบครั้งนี้ในปี ค.ศ.1930 และประดิษฐ์เครื่องสแกนเนอร์เพื่อวัดระดับแคโรทีนอยด์จากเรตินาในดวงตา จากนั้นได้ทำการ

คิดค้นและพัฒนาจนกระทั่งได้เครื่องสแกนเนอร์ที่วัดแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนัง

เครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์ ทำงานอย่างไร

ไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์เป็นวิวัฒนาการของการนำหลักการแสงเลเซอร์มาใช้ แสงเลเซอร์จากเครื่องสแกนเนอร์มีความยาวคลื่นที่ 473 นาโนเมตร เป็นสีน้ำเงิน เมื่อแสงเลเซอร์กระทบกับโมเลกุลของแคโรทีนอยด์ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนและสะท้อนคลื่นแสงออกมาที่ 510 นาโนเมตร ให้สีเขียว เครื่องสแกนเนอร์จะมีตัววัดความไวสูงเพื่อตรวจจับปริมาณแสงสีเขียวที่สะท้อนกลับมา โปรแกรมที่สร้าง

ขึ้นเพื่อการประมวลในเครื่องคอมพิวเตอร์แปลผลจากแสงสีเขียวที่สะท้อน แล้วแสดงผลออกมาเป็นค่าระดับสารแคโรทีนอยด์ที่หน้าจอระดับแสงจากสแกนเนอร์เป็นระดับพลังงานต่ำไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือทำอันตรายต่อร่างกายหรือการทำงานของร่างกาย

เครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์ มีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด

เมื่อปี ค.ศ.1920 เซอร์ ซี.วี. รามาน ค้นพบว่าโมเลกุลของแคโรทีนอยด์จะเปลี่ยนแสงเลเซอร์สีฟ้าให้เป็นสีเขียว แต่ในเวลานั้นวิทยาการแสงเลเซอร์และคอมพิวเตอร์ยังเป็นเรื่องที่มีความสลับซับซ้อนมาก และยังไม่สามารถผนวกเข้าด้วยกันเพื่อประเมินเป็นค่าออกมาได้และต่อมา ดร. เกลเลอร์แมน ได้ใช้ทุนวิจัยกว่า 1,200 ล้านบาทในการพัฒนาการค้นพบดังกล่าวจนมาเป็นเครื่องไบโอโฟโตนิคสแกนเนอร์ และได้จดสิทธบัตรทั้งหมด 8 ฉบับทั้งในสหรัฐฯ, ยุโรป และเอเซีย

เครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์ ใช้แสงเลเซอร์สีน้ำเงินพลังงานต่ำในการวัดค่าแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนัง ซึ่ง Center for Devicesand Radiological Health(CDRH) ซึ่งอยู่ในการดูแลขององค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาและภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรีได้พิจารณาและตรวจสอบแล้วว่า แสงเลเซอร์ที่ใช้ในการวัดค่า Carotenoids นี้มีความปลอดภัยไม่ทำอันตรายต่อผิวหนัง ค่าที่วัดได้จากเครื่องสแกนเนอร์มีความน่าเชื่อถือว่าถูกต้องแม่นยำเทียบเท่ากับการเจาะเลือด   จากการศึกษาหนึ่งของดร. คาร์เทน สมิธ ซึ่งผลงานได้ถูกนำเสนอในงานประชุมวิชาการระดับโลก เช่น The experimental Biology 2004และผลงานได้ตีพิมพ์ลงในวารสาร FASEB

( Federation of American Societies for Experimental Biology)อีกด้วย

 

ค่าสารต้านอนุมูลอิสระ แคโรทีนอยด์ บอกอะไรกับเรา

แคโรทีนอยด์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง (Powerful Antioxidant) การวัดระดับแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนัง (Skin CarotenoidScore : SCS) ด้วยเครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์ช่วยให้ทราบระดับความเข้มข้นของแคโรทีนอยด์ในร่างกาย เพื่อประเมินระดับสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายว่าเพียงพอในการปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระหรือไม่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่
หลากหลาย เพื่อทำงานเป็นโครงข่ายต่อสู้กับอนุมูลอิสระ เรียกว่า ระบบการต่อต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidant Defense system) ซึ่งจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยเสริมการต้านอนุมูลอิสระที่หลากหลายในปริมาณที่เพียงพอจากอาหารและการเสริมอาหาร

ปัจจัยที่มีผลต่อค่าระดับแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนัง ( SCS )

1. อาหารที่รับประทานแต่ละวัน : ผู้ที่รับประทานผัก ผลไม้ที่มีแคโรทีนอยด์สูง จะมีค่าระดับแคโรนอยด์ที่ผิวหนังสูง
2. การเสริมอาหาร : ผู้ที่เสริมอาหารด้วยผลิตภัณฑ์์ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่หลากหลายในปริมาณพอเหมาะอย่างสม่ำเสมอ
จะมีระดับแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนัง. สูง
3. ปริมาณไขมันในร่างกาย : ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือมีระดับไขมันในร่างกายมากเกินไป ในระดับและเพศของ แต่ละคนมีโอกาสที่ค่า
ระดับแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนังต่ำ
4. การดำเนินชีวิตของแต่ละคน : สภาพแวดล้อมที่มีอนุมูลอิสระสูง เช่น ควันบุหรี่, แสง แดด, ความเครียด, มลภาวะ และสารพิษ มีผล
ทำให้ค่าระดับแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนังลดลง
5. ปัจจัยทางพันธุกรรม : ส่งผลต่อการดูดซึมสารอาหารและแคโรทีนอยด์ที่แตกต่าง กันของร่างกายจึงมีผลต่อค่าระดับแคโรทีนอยด์ที่
ผิวหนังที่วัดได้